ปุ๊บปั๊บเชียงใหม่ พามันส์เดย์ไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งแรกจร้า EP.1
เป็นการพาลูกเที่ยวแบบปุ๊บปั๊บเชียงใหม่มาก เพราะอยู่ๆ ผมก็ต้องไปทำธุระที่เชียงใหม่แบบปุ๊บปั๊บเลยเกิดทริปเร่งด่วนนี้ขึ้นมา …
ทริปนี้ได้น้องสาวมาช่วยเปิดประสบการณ์ในการเดินทางหลายอย่างครับ ลำดับแรกเราต้องจองตั๋วเครื่องบินกันก่อน การจองตั๋วเครื่องบินครั้งนี้ผมได้รู้จักกับ App Traveloka (เชยเนอะ เพิ่งเคยใช้ แต่เอาน่าชีวิตมีครั้งแรกในทุกๆ เรื่องเสมอแหละ) ซึ่งทริปนี้เราเลือกบินกับ Thai Vietjet Air ทั้่งไป และกลับซึ่งสะดวกมากๆ เพราะขึ้น-ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ (ทริปนี้ไป-กลับ ค่าตั๋วเครื่องบินคนละ 2 พันนิดๆ ครับใช้ Code ของ App Traveloka ลดเพิ่มอีก 150 บาทต่อที่ … ดีงามครับ)
วันเดินทางเราไปถึงสนามบินก่อนเวลาเช็คอินประมาณ 30 นาที (เดินทางกับเด็กไปไวไว้ก่อนปลอดภัยครับ) Thai Vietjet Air ยังไม่สามารถเช็คอิน ออนไลท์ได้นะครับต้องเช็คอินที่เคาท์เตอร์เท่านั้น ไปก่อนเวลาซัก 30 นาทีกำลังดีครับ ไม่ต้องตื่นเต้นดีครับ
เช็คอินเสร็จเราเดินไปรอขึ้นเครื่องซึ่งต้องชม Thai Vietjet Air ในความตรงเวลาครับ
ทริปนี้ได้ฝึกลูกให้รับผิดชอบตัวเอง จัดกระเป๋า ลากกระเป๋าด้วยตัวเอง น่าจะเพราะความอยากไปเที่ยวเชียงใหม่มากๆ ลากกระเป๋าเองไปต่อแถวเพื่อเดินขึ้นเครื่องแล้วครับ
สำหรับเด็กที่ยังไม่มีบัตรประชาชน (ก่อน 7 ขวบ) ถ้าไม่อยากถือสูติบัตรใบใหญ่ๆ สามารถใช้ Passport เพื่อยืนยันตัวตนแทนได้ครับ
มันส์เดย์ : พี่ครับๆ ลำนี้ไปเชียงใหม่ใช่มั๊ยครับ
มันส์เดย์ลากกระเป๋าโกวแทนครับ เพราะของมันส์เดย์หนักกว่าเยอะ …
สำหรับเด็กในทุกๆ สายการบินจะให้นั่งติดหน้าต่างครับ
ขาไปมีฝนตก สภาพอากาศไม่ค่อยดีมีตกหลุมอากาศใหญ่ๆ ไป 1 รอบ เลยได้โอกาศบอกลูกว่านี่คือเหตุผลที่ยังต้องรัดเข็มขัดไว้ เพราะไม่อย่างนั้นตัวเราอาจจะกระเด็นออกจากเบาะนั่งได้ ซึ่งได้ผลดีเพราะสอนจากประสบการณ์ตรงๆ สดๆ เลย
นั่งชมวิวตลอดทาง ไม่หลับเลย …
ถึงเชียงใหม่แล้วจร้าาาาา … ภาพนี้ถ่ายประมาณ 1 ทุ่มครับฟ้ายังสว่างอยู่เลย
เด็กมีความหิว และง่วงปนๆ กันแต่ก็สู้ไม่ถอยเช่นกันครับ
เราถึงเชียงใหม่ตามเวลาที่กำหนดแบบเป๊ะมากครับ มาถึงปุ๊บก็โทรหา DriveHub ซึ่งเราได้ทำการจองรถไว้ก่อนวันเดินทาง ทริปนี้จอง Toyota Yaris Ativ ไว้ครับ ได้รถอายุ 1 ปี วิ่งมา 20,000 กม. นิดๆ สภาพดี ยางดี ภายในสะอาดครับ
เวลาใช้รถเช่า รับรถปุ๊บพยายามเข้าปั๊มเช็คลมยางกันก่อนครับ เพื่อความปลอดภัย เพราะจากประสบการณ์ลมยางไม่เคยจะเท่ากันซักล้อครับ
คันนี้ดีหน่อยมีลมยาง 27 / 24 / 29 / 29 ปอนด์ ตามลำดับไล่จากล้อหน้าขวาวนไปจบล้อหน้าซ้ายครับ ลมยางมีผลต่อการขับขี่ การบังคับเลี้ยว (ตอนรับรถมาพวงมาลัยหนืดๆ) การประหยัดน้ำมัน และระยะเบรคครับ เลยจัดการเติมลมตามสเปคข้างประตูระบุให้เติม 36 ปอนด์ ทั้ง 4 ล้อครับ เติมเรียบร้อยพวงมาลัยหนืดน้อยลงแต่ยังคงกระชับครับ
และแล้วก็ถึงเวลาทานอาหารเย็นกันครับ มื้อแรกน้องสาวพาไปทานร้าน KinLum KunDee เป็นแนวอาหารเหนือเลยเจ้า ร้านอยู่แถวๆ นิมมาน ไม่ไกลจากที่ๆ เราจะไปพักกันคืนนี้ครับ
Google Map : https://goo.gl/maps/8usoHkMcB3WREotp9
เผื่อสนใจอยากลอกการบ้านครับ
หน้าตาอาหารก็จะประมาณนี้ สั่งกันเบาๆ เพราะนี่ก็เกือบจะสองทุ่มแล้วครับทานเยอะเดี๋ยวต้องเบิร์นออกเยอะอีกครับ ^_^
อ่อมปู จัดว่าเด็ดป้ายกับข้าวเหนียวร้อนๆ จัดว่าดียยยยย์
พอดีไปกันผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 เลยสั่งไม่ได้เยอะเมนูครับ เลยเอาเมนูมาฝากกันเลยดีกว่า
อาหารที่ร้านนี้จะจานไม่ใหญ่ครับเล็กๆ กำลังทาน สั่งมาได้หลายอย่างพอสมควรครับ
อิ่มแล้วเข้าที่พักกันครับ คืนนี้เราพักกันที่ Arch 39 Art & Craft Hotel เป็นโรงแรมเล็กๆ เก๋ๆ โรงแรมอยู่ถนนมณีนพรัตน์ ซึ่งไม่ไกลจากย่านนิมมานซึ่งทำให้เราสะดวกสบายในการหาของกิน (อันนี้สำคัญ)
Google Map : https://goo.gl/maps/zGxvJSzyaMrNw2ho8
ที่เลือกที่พักที่ Arch 39 เพราะเปิดรูปนี้ให้มันส์เดย์ดูครับ
รูปจากเพจโรงแรม : https://www.facebook.com/arch39hotel/
ห้องในภาพเหมาะสำหรับครอบครัวที่ไปกันซัก 4-6 คนครับ ดูมีอะไรให้เด็กๆ เล่นกันในห้องดีครับ แค่เตียงตาข่ายก็บันเทิงแล้วครับ
อันนี้เป็นห้องอีกแบบนึงครับ ดูมีความสนุกซุกอยู่ในห้องดีครับ
รูปจากเพจโรงแรม : https://www.facebook.com/arch39hotel/
เข้ามาที่ Lobby มองขึ้นไปก็จะเจอไฟชุดนี้ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากนอกโรงแรมด้วยครับ
โรงแรมนี้ตกแต่งแนว Modern Japanese ด้วยการใช้สีแนวเอิร์ธโทนที่สบายตา และใกล้ชิดกับธรรมชาติในห้องพักยังมีต้นไม้ตกแต่งให้รู้สึกสดชื่นด้วยครับ
อันนี้ห้องพักที่พักจริงครับ เนื่องจากมากันผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 เลยเลือกห้องเล็กแทนครับ ห้องนี้อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมครับน่าจะชั้น 5 แต่ไม่มีลิฟต์เดินกันเหนือยเบาๆ ครับ
เดี๋ยวพาชมบรรยากาศในโรงแรมกันต่อใน EP.2 กันครับ
